กรณีศึกษา Pepsi A.M ทำไมไปไม่รอด

Pepsi A.M. คือ ผลิตภัณฑ์ของ Pepsi ที่ถูกออกเเบบมาเพื่อให้คนดื่มในตอนเช้าเเทนกาเเฟ

ปกติคนเรานิยมชอบดื่มกาเเฟในตอนเช้า เพื่อให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเวลาทำงาน เพราะในกาเเฟนั้นมีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่

ซึ่งในน้ำอัดลม Pepsi เองก็มีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่เหมือนกัน Pepsi จึงว่า น่าจะทำผลิตภัณฑ์ของตัวเองขึ้นมาใหม่ ที่สามารถทำให้คนรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเวลาทำงานได้ เพื่อหวังจะให้คนดื่มเเทนกาเเฟในตอนเช้า

เเต่เเล้วเมื่อ Pepsi A.M. ออกวางขายในตลาดได้ไม่นาน ปรากฎว่า "ไปไม่รอด"

เพราะว่าความเป็นจริงเเล้ว คนเราไม่ได้ดื่มกาเเฟเพื่อต้องการเเค่คาเฟอีนอย่างเดียว เเต่มันมีเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกกับการดื่มกาเเฟเข้ามาเกี่ยวด้วย

เช่น หลายคนมีรสนิยมการดื่มกาเเฟ ชอบกลิ่นของกาเเฟ ชอบการนั่งจิบกาเเฟชิลๆ มีความสุขกับบรรยากาาศการนั่งร้านกาเเฟในตอนเช้า มีสังคมของการพูดคุยโดยการมีการดื่มกาเเฟเป็นสื่อกลาง 

เราคงไม่นัดคุยกับลูกค้าด้วยการชวนไปยกกระป๋อง pepsi ขึ้นมาซดกันหรอก จริงไหม ? 

เพราะความจริงเเล้ว เครื่องดื่ม Pepsi ถูกออกเเบบมาเพื่อประสบการณ์บนโต๊ะอาหาร หรือการสังสรรค์มากกว่า

หลายๆครั้งเวลาที่เราจะคิดผลิตภัณฑ์หรือบริการอะไรออกมาสักอย่างหนึ่ง มันง่ายมากที่จะเริ่มต้นจากสิ่งที่เราอยากจะขายเเละเราก็มักจะคิดเเบบนี้ก่อนเสมอ โดยไม่เข้าใจมุมมองของลูกค้าจริงๆ

ดังนั้นก่อนที่คุณเริ่มขายอะไร คุณต้องเริ่มจากการเปลี่ยนไปมองในมุมของลูกค้าก่อน ไปถามจากตัวของลูกค้าก่อน ว่าจริงๆเเล้วลูกค้าอยากได้อะไรกันเเน่

เเล้วจึงค่อยคิดผลิตภัณฑ์หรือบริการออกมาตอบสนองความต้องการของลูกค้า เเล้วผมรับรองว่าคุณจะไม่เดินพลาดเเบบ Pepsi A.M เเน่นอน

จงเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น เพราะมันคือบทเรียนที่ราคาถูกที่สุด