ใครบอกว่าบริษัทที่ดีต้องเป็นเหมือนครอบครัว

Netflix เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1997 โดยเริ่มต้นจากธุรกิจให้เช่า DVD ส่งผ่านทางไปรษณีย์ จนเวลาผ่านไปเมื่ออินเทอร์เน็ตเริ่มมีบทบาทมากขึ้นคนก็เริ่มหันไปดูหนังผ่านทางอินเทอร์เน็ตกันหมด จึงเปลี่ยนมาทำธุรกิจเเบบ "สตรีมมิ่งหนังออนไลน์" . โดยปัจจุบัน Netflix ยังทำหนังเป็นของตัวเองที่เรียกว่า "Netflix Original" อีกด้วย Netflix เป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วจนเป็นยูนิคอน (มีมูลค่าธุรกิจเกิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยมีผู้ใช้กว่า 100 ล้านคนทั่วโลก . เเต่มีอยู่เรื่องนึงที่น่าสนใจมากในการบริหารคนของบริษัท Netflix นั้นก็คือเขาไม่เชื่อว่า "องค์กรต้องสร้างให้เหมือนครอบครัว" ซึ่งหลายๆบริษัทในเมืองไทยมักใช้คำว่า "พี่น้อง" หรือ "เราเป็นครอบครัวเดียวกัน" . เเต่ผมไม่ได้บอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิดนะครับ เพียงเเค่บริษัท Netflix เขาไม่เชื่อในสิ่งนี้เท่านั้นเอง . เเต่เอ๊ะ ...!! ถ้าเขาไม่ได้สร้างองค์กรให้เหมือน "ครอบครัว" เเล้วเขาสร้างให้เป็นเเบบไหนล่ะ ? ถ้าอยากรู้เเล้วละก็ ขอเชิญทุกท่านเข้าสู่โลกเเห่งหนังสตรีมมิ่งในโหมด "สมองไหล" กันเล๊ยยย... . หากเรานึกถึงครอบครัวจริงๆอย่างที่บ้านเราก็มี พ่อ เเม่ ลูก ถามว่าเเต่ละคนในครอบครัวมีเป้าหมายเดียวกันหรือเปล่า ? . คุณพ่ออาจจะมีเป้าหมายในเรื่องงาน เรื่องครอบครัว อยากจะซื้อนาฬิกาซื้อรถ คุณเเม่อาจจะอยากไปเที่ยว อยากจะซื้อกระเป๋า ส่วนคุณลูกอาจจะกำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรืออยากเรียนให้ได้เกียรตินิยมอันดับ1 จะเห็นได้ว่าในเวลาที่เเตกต่างกัน ต่างคนต่างก็มีเป้าหมายที่ต่างกันออกไป . สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ สมมุติว่าใน "ครอบครัว" มีลูกคนนึงเกิดนิสัยไม่ดี ตื่นสาย ไม่ทำงานหรือติดยาขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง ? . คำตอบคือ ก็ต้องช่วยกันดูเเล ช่วยกันบำบัดทุกข์บำรุงสุขกันไปใช่ไหมละครับ . ถามว่าไล่ออกจากครอบครัวได้ไหม ? เเน่นอนว่า "ไม่ได้" เพราะครอบครัวเป็นเเล้วเป็นเลย ไม่สามารถที่จะลาออกหรือไล่ออกได้ . เเต่ถ้าเป็นองค์กรล่ะ ? ถ้าวันนี้คนที่ทำงานอยู่ในองค์กรมีเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน มันก็คงจะทำให้ทำงานด้วยกันยาก เเล้วถ้าคนใดคนหนึ่งในองค์กรเกิดทำตัวไม่ดี ตื่นสาย ไม่ยอมมาทำงาน หรือไม่มีทักษะที่องค์กรต้องการเเล้ว ถามว่าคุณจะยังคงให้คนๆนั้นอยู่ในองค์กรอยู่ไหม ? . คำตอบส่วนใหญ่คือ "ไม่" เเม้เเต่องค์กรที่บอกว่า "เราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน" ก็ยังไม่ให้คนเเบบนั้นอยู่ในองค์กรเลยใช่ไหมละครับ เเละนี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ Netflix ไม่เชื่อว่าการสร้างบริษัทที่ดีต้องสร้างให้เหมือน "ครอบครัว" . เเต่ Netflix เชื่อว่าการสร้างบริษัทที่ดีต้องสร้างให้เหมือน "ทีมกีฬามืออาชีพ" ยกตัวอย่าง "ทีมฟุตบอล" ในการเเข่งขันฟุตบอลเมื่อทุกคนลงไปในสนามทุกคนมี "เป้าหมาย" ที่เหมือนกันคือการ "ยิงประตู" เพื่อเอาชนะ โดยที่เเต่ละคนมีหน้าที่ที่เเตกต่างกัน . อย่างเช่น ผู้รักษาประตูมีหน้าที่ป้องกันการทำประตูของฝ่ายตรงข้าม กองหน้ามีหน้าที่ทำประตู ส่วนกุนซือหรือโค้ชมีหน้าที่บริหารจัดการทีมเเละนักฟุตบอลในสนาม เเต่ถึงเเม้ว่าหน้าที่ของเเต่ละคนจะเเตกต่างกัน เเต่ทุกคนก็รู้เป้าหมายเดียวกันอย่างชัดเจน . สิ่งที่สำคัญสำหรับทีมฟุตบอลอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถึงเเม้ว่าทุกคนในทีมจะรักกันมากก็จริง เเต่เป้าหมายของทีมนั้นยิ่งใหญ่กว่า อย่างการคว้าเเชมป์ "พรีเมียร์ลีก" . ดังนั้นการเปลี่ยนตัวผู้เล่นโดยการเอาผู้เล่นที่อาจจะขี้เกียจมาซ้อมหรือไม่มีผลงานที่ดีพอจะช่วยเหลือทีมได้ออกไปเเละเอาผู้เล่นที่เก่งๆคนใหม่เข้ามา เพื่อทำให้ทีม "เเข็งเเกร่ง" มากยิ่งขึ้น เเละทำให้ทีมนั้นสามารถคว้าเเชมป์ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการรักษาคนใดคนหนึ่งที่อาจจะไม่ได้มีความตั้งใจเหมือนกับคนอื่นๆให้อยู่ในทีมต่อไป . เเต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าการพัฒนาผู้เล่นที่มีอยู่เเล้วจะทำไม่ได้นะครับ การพัฒนาผู้เล่นในทีมก็เป็นสิ่งที่ทำได้ เเต่การเอาผู้เล่นเก่งๆคนใหม่เข้ามาก็ทำได้เช่นกัน เเละในทางกลับกันหากผู้เล่นในทีมของเรานั้นเก่งมากพอที่จะย้ายออกไปหาทีมใหม่ๆที่ดีกว่า เราก็ต้องปล่อยเขาไปเช่นเดียวกัน เเม้ว่าจะรักกันมากเเค่ไหนก็ตาม . เพราะฉะนั้นการสร้างบริษัทให้ในทีมต้องมีคนเก่งๆมาอยู่รวมกัน มีเป้าหมายเดียวกัน ผู้เล่นสามารถพัฒนาเเละเปลี่ยนตัวได้เสมอ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เเบบ "ทีมกีฬามืออาชีพ" . คือ สิ่งที่บริษัท Netflix เชื่อว่าเป็นการสร้างบริษัทที่ดี ไม่ใช่การสร้างเเบบ "ครอบครัว"