คุณรวิศ หาญอุตสาหะ เขียนไว้ในหนังสือ The disruptor ว่า คุณสมยศ เชาวลิต หรือ คุณจิ๊บ ผู้ก่อตั้ง J.I.B ซึ่งสร้างบริษัทขึ้นมาด้วยเงินหลักเเสนสู่ยอดขาย 8,000 ล้าน เกิดมาในครอบครัวยากจนจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เเต่เดิมคุณจิ๊บเคยหันมาเอาดีด้านมวยเรียกได้ว่าชกเป็นอาชีพเลยก็ว่าได้ เเม้กระทั่งเวทีใหญ่ๆอย่างราชดำเนินก็เคยขึ้นมาเเล้ว
นอกจากต่อยมวยเเล้วคุณจิ๊บยังชอบเรื่องคอมพิวเตอร์เเละการเขียนโปรเเกรมด้วย เเต่เมื่อเรียนจบ ปวส.ด้านคอมพิวเตอร์ จึงเลิกอาชีพมวยไปเเล้วมาได้งานที่ธนาคารไทยพาณิชย์
ช่วงที่ทำงานธนาคารคุณจิ๊บได้รับงานเสริม โดยการรับประกอบคอมตามสเปคที่พี่ๆ เพื่อนๆ ในที่ทำงานต้องการ เนื่องจากคุณจิ๊บมีความสนใจด้านนี้จึงกลายเป็นผู้เชี้ยวชาญของธนาคารไปในตัว
ตอนหลังคุณจิ๊บเริ่มทำงานนี้อย่างจริงจังเพราะตัวเองไม่ได้คิดค่าบริการเเพงจึงทำให้มีลูกค้าเริ่มมาใช้บริการจำนวนมาก คุณจิ๊บทั้งรับจัดสเปคเเละรับซ่อมให้ด้วยถ้าหากคอมใครมีปัญหา
พอเริ่มทำไปสักพักคุณจิ๊บก็เริ่มเห็นช่องทางธุรกิจ จึงคิดอยากทำเป็นอาชีพหลักประจวบเหมาะกับตอนนั้นที่ห้างเซียร์รังสิตมีช่องเช่าในราคาประมาณ 16,000 บาทต่อเดือน จึงตัดสินใจลาออกจากงานธนาคารมาทำธุรกิจของตัวเอง โดยมีเงินจากทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นทุน 200,000 บาท
ในช่วงเเรกที่ร้านเเทบไม่มีของสต๊อกเลย คุณจิ๊บจึงไปขอกล่องเปล่าจากร้านอื่นมาวางเพื่อให้ดูเหมือนมีของเต็มร้าน เวลาที่มีลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อคอมพิวเตอร์เเละระบุสเปคที่ต้องการ คุณจิ๊บจะบอกให้ลูกค้าไปเดินเล่นก่อน เเล้วใช้เวลาช่วงระหว่างนั้นไปวิ่งซื้ออะไหล่จากร้านต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ซีพียู เพื่อเอามาประกอบเป็นคอมพิวเตอร์ตามสเปคให้ทันเวลาก่อนที่ลูกค้าจะกลับมารับของ
ด้วยความเชี้ยวชาญรู้ลึกด้านคอมพิวเตอร์เเละความใส่ใจกับการอธิบายสเปคเเละข้อดีข้อเสียของสินค้าที่ขายอย่างตรงไปตรงมาให้กับลูกค้า ร้านคุณจิ๊บจึงได้รับการบอกต่อเเบบปากต่อปาก จึงทำให้ร้านของคุณจิ๊บเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นคุณจิ๊บได้มีการวางระบบต่างๆ เช่น เรื่องการสั่งสินค้า จะมีการวางระบบคำนวณว่าควรสั่งสินค้าเเบบไหนกี่ตัว เพื่อไม่ให้มีสินค้าในสต๊อกมากหรือน้อยเกินไป เเละไม่ให้มีสินค้าตกรุ่นกองอยู่ที่ร้าน
นั่นจึงทำให้ J.I.B เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมียอดขายรวม 1,000 ล้านบาท ภายในเวลาเพียง 4 ปี
ช่วงที่ J.I.B กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คุณจิ๊บจึงต้องการขยายสาขาเพิ่ม เพราะอยากเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดนี้ เหตุผลเพราะอุปกรณ์ไอทีเวลาสั่งทีละมากๆ จะได้ส่วนลดถึง 50% เลยทีเดียว คุณจิ๊บจึงไปกู้เงินธนาคารมาถึง 350 ล้านบาท เเล้วนำไปเปิดสาขาอย่างดุเดือด จนมีสาขาถึง 180 สาขา
เเต่เมื่อเปิดมาได้ 2 ปี เงินที่กู้ก็เริ่มหมด ทำให้บริษัทเริ่มมีปัญหาการเงิน กำไรที่เคยมีก็หายไปเเทบทั้งหมด ธนาคารก็เริ่มทวงเงิน พอไม่มีคืนก็ขึ้นดอกเบี้ย
คุณจิ๊บค่อยๆ ตั้งสติเเละเริ่มตรวจสอบว่าสาขาไหนขาดทุนบ้าง เเล้วไล่ปิดไปกว่า 40 สาขาอย่างรวดเร็ว จนสถานการณ์ด้านการเงินเริ่มดีขึ้น เหตุการณ์ในครั้งนี้สอนให้คุณจิ๊บรู้ว่าเวลาจะทำอะไร ต้องตั้งสติให้ดี คิดให้รอบคอบ อย่าทำอะไรเกินตัว เเละสิ่งที่คุณจิ๊บทำหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็คือ "การตรวจสอบตัวเลขกำไรขาดทุนรายวัน" ย้ำว่า "รายวัน" เลยนะครับ
ถึงขนาดลงทุนเขียนโปรเเกรมตรวจสอบตัวเลขขึ้นมาเพื่อป้องกันปัญหาซ้ำรอยเดิม โดยตัวเลขยอดขายรวม ยอดรายสาขาจะวิ่งเข้ามาในหน้าจอมือถือของคุณจิ๊บตลอดเวลาเเบบเรียลไทม์ ซึ่งการดูตัวเลขเเบบนี้ทำให้สามารถเเก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
จุดเด่นของ J.I.B คือระยะเวลาในการจัดส่งครับ ถ้าส่งต่างจังหวัดจะใช้เวลา 1 วัน เเต่ถ้าเป็นในกรุงเทพจะใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเวลาเพียง 3 ชั่วโมงนี้ไม่เพียงทำให้ J.I.B สามารถเเข่งกับอีคอมเมิร์ชเท่านั้น เเต่ยังเเข่งกับห้างสรรพสินค้าต่างๆได้อีกด้วย เพราะกว่าคุณจะขับรถ หาที่จอด เดินเข้าห้าง เลือกซื้อสินค้า เเล้วก็เดินทางกลับ มันใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมงเเน่ๆ
จนถึงวันนี้ J.I.B กลายเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากๆ ถึงขนาดมียอดขายเเบบ B2C (Business to Consumer) เป็นอันดับสองรองจาก Lazada เลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นเส้นทางการเดินสู่ 8,000 ล้าน มันไม่ใช่เรื่อง JIB JIB เพราะนอกจากหัวใจที่ต้องสู้ไม่ถอยเเล้ว ระบบทางความคิดที่ทรงพลังก็สำคัญไม่เเพ้กัน
Comments