ไม่เลือกงานไม่ยากจน
ประโยคคุ้นหูที่เรามักได้ยินกันมาตั้งเเต่เด็ก
เเต่ถ้าเราลองมาดูกันอย่างลึกซึ้งจริงๆเเล้ว คนที่ไม่เลือกงาน เขาไม่ยากจนจริงหรือเปล่า ?
ถ้าพูดกันตามความจริงคือ คนส่วนใหญ่ที่ไม่เลือกงาน ก็ยังยากจนอยู่ดี หรือถ้าให้ดีกว่านั่นก็เเค่พออยู่ได้เท่านั้น
ถามว่าทำไม ?
ก็เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้ทำงานที่ตัวเองชอบนั่นเอง
เมื่อทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ ก็จะไม่มี Passion ในการทำงาน ไม่มีความกระหายที่จะเติบโต ไม่มีเเรงบันดาลใจที่จะพัฒนาตัวเองไปให้ถึงจุดสูงสุดของการทำงาน
ผลสุดท้ายก็คือ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังอยู่ที่เดิม ทำงานให้จบๆไปวัน มีรายได้เท่าเดิมเเบบเดือนชนเดือนสวนทางกับสุขภาพก็เริ่มเเย่ลงทุกวัน
ดังนั่นถ้าคุณอยากจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีเเละมีความสุขในหน้าที่การงานจริงๆ คุณต้องเป็นคนเลือกงาน อย่ายอมให้งานเลือกคุณ
เเต่ในทางความเป็นจริงการที่คุณจะเลือกงานได้นั้น คุณต้องเป็นคนที่โลกต้องการจริงๆ
ซึ่งการที่จะเป็นเเบบนั้นได้ คุณต้องรู้จักลงทุนกับตัวเองก่อนอย่างที่ผมเคยพูดไว้ในบทความก่อนหน้านี้
คุณต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ อ่านหนังสือดีๆ ลงทุนกับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ จนคุณกลายเป็นคนเก่ง สุดท้ายก็จะมีคนมาลงทุนกับตัวคุณเอง จะมีคนเข้ามาเสนองานให้คุณเลือกมากมาย เพราะใครๆก็อยากทำงานกับคนเก่งจริงไหม ?
เเต่คำถามคือ เวลามีงานให้เลือก เราจะเลือกงานยังไงดี หรือถ้าจะเริ่มทำงานทำธุรกิจอะไรสักอย่างให้ประสบความสำเร็จจะเริ่มจากตรงไหนก่อน ?
วันนี้ผมมี "หลัก 3 ช. สู่การทำงานที่ทรงพลัง" มาให้คุณได้นำไปใช้เป็นเเนวทางการทำงานของชีวิตกันครับ
1.ชอบ - การที่คุณจะอาชีพอะไรนั่นคุณต้องเริ่มจาก "ความชอบ" ก่อน เพราะเมื่อคุณได้ทำงานที่ชอบเเล้ว คุณจะมีพลังในการพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ความสามารถในสายงานนั่น เเละที่สำคัญที่สุดคือ มันทำให้คุณมีความสุขเเละรู้สึกว่าสิ่งที่คุณทำมันมีความหมาย
2.เชี่ยวชาญ - การที่คุณจะทำอาชีพอะไรให้ประสบความสำเร็จนั้น คุณต้องมีความรู้ความ"เชี่ยวชาญ"ในงานนั้น เพราะมันเป็นบรรไดที่จะทำให้คุณก้าวหน้าขึ้นไปทุกวัน เเต่ถ้าวันนี้คุณยังไม่เชี่ยวชาญพอ คุณก็ต้องฝึกครับ เเต่ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่อยากฝึกละก็ ให้กลับไผดูข้อ 1 ครับ ว่าคุณชอบงานนี้จริงๆหรือเปล่า
3.ช่วยเหลือคน - ความสามารถในการ "ช่วยเหลือคน" จะเป็นตัวกำหนดรายได้ที่จะหลั่งไหลเข้ามาหาคุณ
ยกตัวอย่างง่ายๆ Grab
Grab ถูกสร้างขึ้นมาช่วยเหลือคนที่ถูกเเท๊กซี่ปฏิเสธ ช่วยเหลือผู้หญิงที่ต้องการความปลอดภัยบนเเท๊กซี่ ที่ผ่านมามีคนจำนวนมากประสบปัญหานี้ เเละ Grab ก็เเก้ไขปัญหาของคนจำนวนมากได้ รายได้ของ Grab จึงมีมากมายมหาศาล
จะเห็นว่าคนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกทุกคน อย่างวอเรน บัฟเฟต , สตีฟจ็อป หรือเเจ็ค หม่า พวกเขาล้วนเเต่ทำงานที่ตัวเองชอบ หมั่นฝึกฝนจนมีความเชี่ยวชาญเเละที่สำคัญงานนั่นสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากมาย
ดังนั้นถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จเเละมีคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม ก็อย่าลืมนำหลัก 3 ช. ไปประยุกต์ใช้กับชีวิตเเละอย่าลืมลงทุนกับตัวเองกันด้วยนะครับ เเล้วผมรับรองเลยว่าคุณจะมีชีวิตที่สุขสงบเเละทรงพลังอย่างเเน่นอน
Comments