top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนสมองไหล

จะหาจุดสมดุลของสิ่งที่ชอบเเละต้องรับผิดชอบได้ยังไง ?





ในวัยเด็ก Robert Lang มีงานอดิเรกที่เขาชอบมากคือการพับกระดาษแบบ Origami ซึ่งเป็นศาสตร์อันเก่าแก่ของญี่ปุ่น


Robertเป็นคนเรียนเก่งเขาเรียนวิศวกรรมไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัย Stanford จบ ป.เอกจาก Caltech ซึ่งเป็น 2 มหาวิทยาที่เข้ายากและเรียนยากลำดับต้นๆของโลก


หลังเรียนจบ ป.เอก Robert ก็มาเป็นนักวิจัยด้าน Fiber-optic แต่เขาก็ไม่เคยทิ้งความหลงใหลใน Origami เลยแม้แต่น้อย 


ถึงแม้เขาจะมีอาชีพการงานในวงการวิจัยด้านฟิสิกส์ที่ซับซ้อนและยุ่งยากมากก็ตาม

แต่เขายังคงพับ Origami ต่อไป ในรูปแบบต่างๆ



การพับแต่ละครั้งของเขาถูกสร้างสรรค์ออกมาอย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยอัตราการพับเฉลี่ยต่อแผ่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากสามสิบทบเป็นร้อยกว่าทบ ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากที่สุดที่เคยมีกาบันทึกสถิติไว้เสียอีก ทำให้งานของเขาออกมาดูยังไงก็ไม่เหมือนการพับด้วยกระดาษแผ่นเดียวเลย


จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่า “รูปแบบ” ของ Origami เมื่อมาประยุกต์กับความรู้ด้านคณิตศาสตร์ที่เขามีอยู่นั้น เขาพบว่า จริงๆแล้วรูปแบบการพับทั้งหมดนั้นสามารถคำนวณออกมาได้เป็นแบบแผนอยู่แค่ไม่กี่แบบ 

เขาจึงได้คิดค้นโปรแกรมที่จะช่วยให้การพับกระดาษต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำได้ให้สามารถทำได้ขึ้นมา


ในที่สุดเมื่อเขาอายุครบ 40 ปี เขาก็ตัดสินใจลาออกจากอาชีพนักวิจัยที่กำลังรุ่งโรจน์ของเขา 

ทั้งที่ในตอนนั้นเขามีสิทธิบัตรด้านออปโตอิเล็กทรอนิกส์อยู่ถึง 46 สิทธิบัตร เพื่อมาศึกษาเรื่อง Origami อย่างจริงจัง



Robert วบอกว่า มีคนที่ทำเรื่อง Fiber-optic เยอะแล้ว แต่สิ่งที่ผมจะทำกับ Origami ถ้าผมไม่ทำ อาจจำไม่มีใครทำสำเร็จอีก

และดูเหมือนเขาจะพูดถูกเสียด้วย ปรากฏว่างานอดิเรกด้าน Origami ของเขาได้ถูกนำมาใช้พัฒนาในศาสตร์ด้านอื่นอย่างไม่น่าเชื่อ 


ยกตัวอย่างเช่น ตอน NASA ต้องการส่งเลนส์ของกล้องส่องทางไกลซึ่งมีขนาดใหญ่มากๆขึ้นไปอวกาศ มันจำเป็นต้องทำการ “พับ” ให้มีขนาดเล็กเพื่อใส่ลงไปในจรวดให้ได้ก่อนแล้วค่อยไปกางออกอีกทีบนอวกาศ NASA ก็ได้ Robert Lang นี่แหละมาเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบเลนส์เพื่อให้สามารถอยู่ในรูปแบบที่ถูกพับได้และเล็กพอที่จะเก็บในจรวดได้





เมื่อผู้ผลิต Aribag ของเยอรมัน ต้องการ “พับ” Airbag เข้าไปในตัวรถยนต์เพื่อให้การกางของ Airbag เมื่อรถเกิดออุบัติเหตุมีประสิทธิภาพมากที่สุดพวกเขาก็มาขอความช่วยเหลือจาก Robert หรือ 

เมื่อผู้ผลิตอุปกรณ์ขยายหลอดเลือดต้องการเครื่องมือขยายหลอดเลือดที่เมื่อตอนเดินทางไปอยู่ในหลอดนั้นมีขนาดเล็ก แต่จะขยายใหญ่ขึ้นเมื่อไปถึงเป้าหมาย พวกเขาก็มาหาคนที่ชื่อ Robert Lang

เมื่อผู้ผลิตอุปกรณ์ขยายหลอดเลือดต้องการเรมดาๆของ Robert สามารถช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ทางวิศวกรรมได้อย่างไม่น่าเชื่อ


สิ่งที่ผมอยากจะบอกจากเรื่องนี้ก็คือ ถ้าเรามองดูดีๆ สิ่งที่เรา “ชอบ” กับ สิ่งที่เรา “ต้องรับผิดชอบ” เกือบทุกเรื่องมันจะเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันหมดครับ ถ้าเราสามารถเชื่อมโยงมันเข้าด้วยกันได้


ยกตัวอย่างตัวผมเอง สิ่งที่ผมชอบมากตอนนี้ก็คือการอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือสามารถทำให้ผมมีสมาธิมากขึ้น เมื่อผมอ่านหนังสือมากๆผมก็มีวัตถุดิบมาเขียน Blockdit เพื่อหารายได้ 

สามารถนำไปใช้ในการทำงานด้านการตลาดด้าน Content Digital Marketing


แถมงานเขียนของผมก็ไปถูกใจหัวหน้าบริษัทหนึ่งจึงจ้างผมเป็นฟรีแลนซ์เขียนให้เพจเขาซึ่งรายได้ดีมากการที่ผมชอบอ่านหนังสือทำให้ผมได้ซึมซับวิธีการดำเนินเรื่องราวได้อย่างดีส่งผผลให้ผมมีทักษะการ presentation ได้ดีมากๆ ทำให้ผมชนะการประกวดนำเสนอแผนธุรกิจมามากมายถึงแม้แผนธุรกิจผมไม่ได้เลิศเลอแต่ถ้า presentation ได้ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง 


หรือจะเป็นวันที่ผมกลับมานำเสนอผลการฝึกงานที่มหาวิทยาลัยผมก็ได้รับคำชื่นชมในการ presentation ถึงขนาดมีผู้ประกอบการที่แฝงตัวมาในงานสัมมนาลุกขึ้นและประกาศว่าอยากได้ตัวผมไปทำงาน 


และการอ่านหนังสือยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผมได้รู้จักกับผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จหลายๆท่านอีกต่างหากเพราะคนที่สำเร็จทุกคนเขาอ่านหนังสือกันหมด


และการอ่านหนังสือยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผชอบ” กับงานที่ต้อง “รับผิดชอบ” ให้เจอแล้วคุณจะพบว่าคุณทำงานเพื่อสุขที่มีความหมายกับชีวิต ไม่ได้เพียงแค่ทำมันให้จบไปวันๆ

ดู 27 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page