คิดการใหญ่ ใจต้องนิ่ง

- ไมเคิล เฟลป์ส (Michael Phelps) นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่ได้การยกย่องว่าเป็นนักว่ายน้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติรวมทั้งหมด 28 เหรียญ

- ไมเคิล เฟลป์ส ซ้อมว่ายสัปดาห์ละ 7 วัน วันละ 8-10 ชั่วโมง หมายความว่าใน 1 ปี เขาไม่มีวันหยุดเลยแม้แต่วันเดียว

- ก่อนทำการซ้อมทุกครั้งเขาจะลงไปอยู่ในสระนิ่งๆประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อฟังเสียงและสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของน้ำ เก็บรายละเอียดรอบข้างทั้งหมด

- ในการแข่งขันโอลิมปิกปี 2008 ที่ประเทศจีน เขาสามารถคว้าเหรียญทองมาแล้ว 7 เหรียญ จนมาถึงเหรียญสุดท้าย ซึ่งจะแข่งขันกันในท่าผีเสื้อ

- ในระหว่างการแข่งขันในช่วง 50 เมตรสุดท้าย ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ที่ผิดพลาดเกิดขึ้น คือ น้ำในสระไหลเข้ามาในแว่นตาว่ายน้ำของ ไมเคิล เฟลป์ส

- ถ้าเป็นคนอื่นเจอแบบนี้อาจจะตกใจไปไม่ถูกหรือแข่งเสร็จก็ออกมาหาข้อแก้ตัวต่างๆนาๆ กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

- แต่สิ่งที่ ไมเคิล เฟลป์ส ทำคือ “หลับตา” ทำสมาธิแล้วนับลมหายใจตัวเองและเอาจิตใจของตัวเองจดจ่อกับอัตราการเต้นของหัวใจตัวเอง เขาซ้อมทุกวันไม่เคยหยุด เขาว่ายน้ำมาจนชิน เขาฟังเสียงและการเคลื่อนไหวของน้ำทุกวัน เขารู้ทุกรายละเอียดว่าเหลืออีกกี่ลมหายใจ อีกกี่จังหวะและเหลืออีกกี่เมตรจะถึงเส้นชัย เขารู้ว่าข้างหน้าเป็นยังไงโดยไม่ต้องเปิดตาดู เขานิ่งมากๆ และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ จนสามารถคว้าเหรียญทองเหรียญที่ 8 มาครองได้สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

- นี่คือตัวอย่างของบุคคลที่มี "ทัศนคติของผู้ชนะ" อย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าเขาจะเจอความผิดพลาดยังไง เขาก็สามารถกลับขึ้นมายืนได้อย่างรวดเร็ว

- ในวงการกีฬาผู้ที่ถูกจดจำมีเพียงแค่แชมป์กับรองแชมป์ฉันใด ในโลกธุรกิจผู้ที่อยู่รอดได้ก็มีเพียงเบอร์ 1 กับ เบอร์ 2 ฉันนั้น

- ถ้าคุณลองสังเกตดูดีๆ บริษัทที่สามารถอยู่รอดได้จะมีเพียงแค่เบอร์ 1 กับ เบอร์ 2 เท่านั้น เพราะเบอร์ 3 4 และ 5 จะค่อยๆตายไปเอง

- เช่น โค้ก กับ เป๊ปซี่ , Macdonald กับ Burger king หรือจะเป็นเครื่องดื่มชูกำลังอย่าง คาระบาวแดง กับ M150 ก็มีเพียงแค่ 2 เท่านั้น เพราะลิโพ ผู้ที่ตกไปอยู่เบอร์ 3 นั้นสุดท้ายก็ค่อยๆตายและหายไป

- หรือถ้าคุณเป็นพนักงานในบริษัท คนที่ถูกไว้วางใจให้ทำงานใหญ่ๆก็มีเพียงเเค่เบอร์ 1 กับ เบอร์ 2 มันยากมากที่หัวหน้าจะให้พนักงานเบอร์ 3 ได้ทำงานใหญ่ๆของบริษัท

- ดังนั้นหากคุณคิดอยากจะประสบความสำเร็จในโลกของธุรกิจ คุณต้องมีทัศนคติของผู้ชนะ

- ซึ่งทัศนคติของผู้ชนะที่ว่านี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่เคยแพ้ไม่เคยล้มเหลวเลย แต่คือการลุกขึ้นมาจากความล้มเหลวได้เร็วและปรับตัวได้ไวต่างหาก อย่ามัวแต่หลงระเริงอยู่กับความสำเร็จที่ผ่านมา แต่จงมองไปข้างหน้าและไขว้คว้ามันต่อไป

- คุณรู้ไหมครับว่า ไมเคิล เฟลป์ส ไม่เคยอ่านหนังสือพิมพ์หรือดูทีวีที่มีเรื่องราวความสำเร็จของเขาเลย เพราะเขาจะไม่จมอยู่กับความสำเร็จที่ได้มานานจนเกินไป แต่จะรีบเดินต่อไปเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า เพราะอย่าลืมว่าคู่แข่งก็ตามเรามาติดๆและคิดจะแซงเราอยู่ทุกเมื่อที่เราพลาดเช่นกัน

- และที่สำคัญก็คือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะมีวิกฤตถล่มเข้ามาขนาดไหน คุณต้องมีสมาธิ จดจ่ออยู่กับมันอย่างสุขุม นี่แหละครับคือที่มาของคำว่า “คิดการใหญ่ ใจต้องนิ่ง”