top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนสมองไหล

มหัศจรรย์ของความฝัน


หลังจากที่บทความก่อนหน้านี้ผมได้พูดถึงสาเหตุของความรู้สึกว่านอนไม่พอเเม้ว่าจะนอนไปตั้งเยอะ สิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ต่อจากการนอนก็คงเป็นความฝันครับ วันนี้ผมพาทุกคนไปท่องโลกเเห่งความฝัน โลกเเห่งมหัศจรรย์เหนือจินตนาการกันครับ

.

ก่อนอื่นผมขอถามคุณก่อนว่า เวลาไหนที่สมองของคนเราทำงานหนักที่สุด ?

.

ผมเชื่อว่าหลายคนคงนึกไม่ถึงครับว่าช่วงเวลาที่สมองเราทำงานหนักที่สุด ก็คือช่วงที่เรานอนหลับ 

.

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เพราะเวลานอนคือเวลาที่สมองของเราทำการจัดระเบียบความทรงจำเเละจัดสรรข้อมูลต่างๆที่เราได้ประสบพบเจอมาตลอดทั้งวันให้เข้าที่เข้าทางเพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปเก็บไว้ในหน่วยเก็บความทรงจำส่วนลึกของสมองนั่นเอง

.

ซึ่งในขณะสมองกำลังจัดระเบียบเเละเคลื่อนย้ายภาพต่างๆอยู่นั้น เราจะรับรู้ถึงความวุ่นวาย่โกลาหลที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งนั่นเเหละคือ "ความฝัน" ครับ 

.

เเละในขณะที่เรากำลังฝันนั้นสมองจะเผาผลาญพลังงานมากมายมหาศาล ลูกตาเราจะกลอกไปมาอย่างรวดเร็วเหมือนตอนตื่น

.

ในขณะที่สมองของเรากำลังทำงานอย่างหนัก เลือดจะสูบฉีดเเรง เเละลมหายใจจะถี่เหมือนตอนกำลังตื่นไม่มีผิด

.

เเต่การที่เราไม่ได้ลุกออกไปวิ่งหรือกระโดดตีลังกาก็เพราะว่าในขณะที่เราหลับ ธรรมชาติจะสั่งสมองส่วนที่เรียกว่า "พอนส์" (คนที่สมองส่วนนี้เสียหายจะไม่ฝัน) ให้หยุดหลั่งสารนอร์อีพิเนฟริน เซโรโทนิน เเละอิสตามีน ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่นไหวกล้ามเนื้อ

.

เมื่อสารเหล่านี้ไม่ทำงาน ร่างกายจึงเคลื่อนไหวไม่ได้ ทั้งนี้ธรรมชาติออกเเบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เราออกไปทำอะไรโดยขาดการควบคุมนั่นเอง

.


อย่าไรก็ตาม หากสมองเกิดทำงานผิดพลาด มันจะไม่สั่งให้สารเคมีดังกล่าวหยุดหลั่ง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการละเมอนั่นเองครับ อาจจะพูดละเมอ เดินละเมอ หรือในบางกรณีถึงกับออกไปขับรถชนคนตายเลยก็ยังมี ซึ่งเคยมีกรณีการละเมอฆ่าคนตายซึ่งผู้กระทำคือ Mr.Kenneth Parks ซึ่งเมื่อผลพิสูจน์สมองออกมาว่าสมองทำงานผิดพลาดจริงในที่สุดศาลก็ตัดสินให้เขาเป็นผู้บริสุทธ์

.

ทั้งนี้ความล้มเหลวของสมองในการควบคุมกล้ามเนื้อนั้นจะเกิดขึ้นบ่อยในสมองที่ยังเติบโตไม่เต็มที่ เเละในสมองที่กำลังเสื่อมถอยสมรรถภาพ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่คนละเมอเดินพูดหรือปัจสาวะรดที่นอนจะเป็นเด็กเเละผู้สูงอายุมากกว่าคนวัยอื่นๆ



หลายคนอาจจะสงสัยว่าเเล้วคนตาบอดล่ะ เขาฝันกันยังไง

คำตอบคือคนที่ตาบอดตั้งเเต่กำเนิดจะไม่ฝันเป็นภาพครับ เเต่จะฝันเป็นกลิ่น เสียงเเละการสัมผัส ส่วนคนที่หูหนวกมีรายงานวิจัยระบุว่า พวกเขาฝันเป็นภาษาใบ้ครับ

.

ก่อนจากกันวันนี้ผมก็ขอบอกว่าความฝันนั้นมีความหมายนะครับ เพราะมันคือกระจกกที่สะท้อนภาพชีวิตของเราในตอนที่เราตื่น ว่าเราใช้เวลาคิด ประสบ หรือหมกมุ่นกับอะไรอยู่

.

เพราะเมื่อเราทำงานหนักเราก็จะฝันเรื่องงาน ถ้าเรามีความสุขก็จะฝันดี หรือถ้าเราเกิดทุกข์ใจเราก็มักจะฝันร้าย 

.

เเต่บางทีเราก็ฝันร้ายทั้งที่ไม่ได้ทุกข์หรือเครียดอะไร นั่นก็เป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเรามันยังไปขุดคุ้ยถึงเรื่องเก่าๆในอดีต 

.

อ่านบทความนี้จบเเล้ว คืนนี้ผมขอให้คุณนอนหลับฝันดี ไม่คิดกังวลเเละหมกหมุ่นไปกับอดีต เพื่อตื่นขึ้นมารับวันใหม่ในวันพรุ่งนี้อย่างสดใสเเละมีพลังในการสร้างสรรค์อนาคตที่ดีที่สุดนะครับ

ดู 46 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Комментарии


bottom of page