เคยสงสัยกันไหมครับว่า เราก็นอนไปตั้งเยอะเเต่ทำไมรู้สึกว่านอนไม่พอสักที มันคืออาการอะไรเเล้วสาเหตุมันมาจากไหนเดี๋ยว "สมองไหล" จะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่นผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ "คลื่นสมอง" ของมนุษย์กันก่อน คลื่นสมองนั้นเเบ่งออกเป็น 4 ระดับ
1.คลื่นเบต้า มีความถี่อยู่ที่ 13-30 เฮิรตซ์ คือ ช่วงที่เราทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวเยอะๆ
2.คลื่นเเอลฟา มีความถี่อยู่ที่ 8-12 เฮิรตซ์ คือ ช่วงที่เราหลับตาผ่อนคลาย หรือกำลังจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษ
3.คลื่นเทต้า มีความถี่อยู่ที่ 4-7 เฮิรตซ์ คือ ช่วงที่เราสะลึมสะลือ หรือนั่งสมาธิในระดับลึก
4.คลื่นเดลต้า มีความถี่อยู่ที่ 0-3 เฮิรตซ์ คือ ช่วงที่เรากำลังหลับสนิท
ซึ่งการที่เราจะหลับเต็มอิ่มเเล้วตื่นมาสดชื่นคลื่นสมองของเราต้องอยู่ในระดับเดลต้านั่นเองครับ เเต่การที่สมองของเราจะอยู่ในคลื่นระดับนี้ สมองต้องใช้เวลาในการบูทเพื่อดำดิ่งไปสู่โหมดเดลต้าไม่ต่ำกว่า 2-3 ชั่วโมง นับตั้งเเต่เรานอนหลับไป ซึ่งถ้าเราเกิดรู้สึกตัวหรือตื่นขึ้นมากลางดึกสมองของเราต้องเริ่มบูทใหม่ทุกๆครั้งที่เริ่มนอน นี่จึงเป็นสาเหตุที่คนที่นอนหลับๆตื่นๆจึงรู้สึกนอนไม่พอ ถึงเเม้ว่าจะนอนเกิน 8 ชั่วโมงก็ตาม
ที่สำคัญคือ คนที่เครียด วิตกกังวล หรือมีความทุกข์มากๆ จะพักผ่อนได้ไม่สนิทเพราะสมองยังคงวนเวียนคิดไปคิดมาอยู่ ซึ่งเอาจริงๆคนเหล่านี้จะนอนมากกว่าคนปกติ เเต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่านอนพอสักที เพราะว่าตัวเองหลับไม่เคยสนิทนั่นเอง
เเละอีกสาเหตุหนึ่งที่คนเป็นกันเยอะนั่นก็คือ ก่อนนอนหลายคนมักอยู่กับหน้าจอคอมหรือโทรศัพท์ ทำให้คลื่นไฟฟ้าที่ถูกปล่อยมาจากอุปกรณ์เหล่านี้มากระตุ้นสมองของเราให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาจึงส่งผลให้สมองของเราบูทไปสู่คลื่นเดลต้าไม่ได้ จึงทำให้เเม้เรานอนมากเเค่ไหนก็รู้สึกนอนไม่พอนั่นเอง
อย่างที่ผมได้ทิ้งท้ายไว้ในบทความก่อนหน้านี้ว่า ถ้าคุณชาร์จมือถือไว้นอกห้องก่อนนอนได้ คุณจะตื่นมาสดชื่นเเละมีสมองที่ปลอดโปร่งพร้อมสำหรับการทำงานในวันต่อไปอย่างเเน่นอน
นอกจากการชาร์จมือถือไว้นอกห้องเเล้ว ขอให้คุณลองนั่งสมาธิหรือหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านก่อนนอนดูครับ เพราะกิจกรรมเหล่านี้จะให้สมองของคุณพร้อมเข้าสู่โหมดเเห่งการพักผ่อนอย่างเต็มที่อย่างสมบูรณ์เเบบ
เเละผมหวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณมีคุณภาพการนอนที่ดีขึ้นกว่าเดิมนะครับ...
Comments