top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนสมองไหล

Review : หนังสือ THE DISRUPTOR


สรุปสั้นๆ สำหรับคนไม่มีเวลา


 
  • หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับยุคเเห่งการเปลี่ยนเเปลงหรือ Disruption ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก

  • เป็นหนังสือที่ช่วยฝึกทักษะการตั้งคำถามได้เป็นอย่างดี

  • หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณมี Mindset ของผู้บริหารจากผู้เขียน ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ การเป็นผู้นำ การบริหารจัดการชีวิตตัวเอง การบริหารองค์กร บริหารงาน บริหารคน ตลอดจนการรับมือกับปัญหาต่างๆ

  • มีการเเบ่งสีสำหรับประโยคที่สำคัญๆ

  • ภาษาที่เขียนมีศัพท์เทคนิคค่อนข้างเยอะตามสไตล์ของผู้เขียน อ่านเเรกๆอาจจะ งงๆ เเต่คุณจะได้เรียนรู้คำศัพท์ของผู้บริหารอ่านไปสักระยะจะชินเอง

  • ราคา 250 บาท

  • มี 50 บท บทละสั้นๆ

 

หนังสือ THE DISRUPTOR เขียนโดยคุณรวิศ หาญอุสาหะ ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด เเละผู้จัดรายการ Podcast ช่อง mission to the moon ที่ติดอันดับ 1 ของรายการ Podcast


หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับยุคเเห่งการเปลี่ยนเเปลงหรือ Disruption จากเทคโนโลยีต่างๆ เช่น AI เเละ Machine Learning ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก


อย่างไรก็ตาม หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นโอกาส ที่จะใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนเเปลงนี้ เพื่อสร้างงานเเละธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ


คุณรวิศได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า

อนาคตมีเเค่ 2 ทาง คือ คุณจะเปลี่ยนหรือรอให้โลกเปลี่ยนคุณ

หนึ่งในคำถามที่น่าสนใจในหนังสือเล่มนี้คือ


คนที่มีความรู้เเบบ "รู้ลึกกับรู้กว้าง" ความสามารถเเบบไหนที่ตลาดในยุคนี้ต้องการมากกว่ากัน ?

คนที่รู้กว้าง คือ คนที่มีความรู้หลากหลายเเต่ไม่เด่นสักด้าน

คนที่รู้ลึก คือ คนที่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลึกซึ่งเพียงเรื่องเดียว


ในงานวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียมีการสำรวจผู้ที่เรียนจบ MBA จำนวน 400 คน พบว่าคนที่จบด้าน Investment Banking โดยเฉพาะได้รับการเสนองานน้อยกว่าคนที่มีภูมิหลังเเละประสบการณ์เเบบรู้กว้าง


สรุปง่ายๆ ก็คือ คนที่รู้กว้าง ได้รับการเสนองานมากกว่าคนที่รู้ลึกนั่นเอง


เช่นเดียวกับบริษัทจัดหางานในอินเดียอย่าง Randstad India เเละ TeamLease services ก็พบว่า เเนวโน้มการจ้างงานของบริษัทต่างๆในทุกวันนี้เป็นการมองว่า Generalist หรือ รู้กว้างมากขึ้น เเละยังพบด้วยว่าคนที่จบด้าน Liberal Arts เช่น คณะมนุษย์ศาสตร์ ศิลปศาสตร์ นิเทศศาสตร์ อักษรศาสตร์ กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งๆที่เคยถูกมองว่าจบมาเเล้วหางานยาก


ซึ่งสาเหตุที่บริษัทเริ่มต้องการคนที่มีความรู้เเบบกว้าง สามารถอธิบายได้จาก 3 เหตุผลครับ


  1. ยุคนี้เป็นยุคที่เน้นการทำงานเเบบทีมเล็ก สังเกตง่ายๆ ในช่วงนี้กระเเส Startup เริ่มมาเเรง เมื่อทีมเล็กลงคนที่ทำงานก็จำเป็นต้องทำได้หลายอย่าง ดังนั้นการจ้างคนรู้ลึกหรือชำนาญเพียงด้านใดด้านหนึ่งจึงมีความจำเป็นลดลง

  2. ยุคนี้บริษัทเริ่มมองหาคนที่สามารถนำมาฝึกฝนได้ ยิ่งเป็นเด็กจบใหม่บริษัทจะสนใจคนที่รู้กว้างที่มีกระบวนการคิดที่ดีกว่าคนที่รู้ลลึกเฉพาะทางเเค่ด้านใดด้านหนึ่ง เพราะกระบวนการคิดที่ดีฝึกฝนไม่นานก็เก่งหรือเชี่ยวชาญได้ ดีกว่าไปเสี่ยงจ้างคนที่ชำนาญเฉพาะทางซึ่งค่าตัวเเพงกว่า

  3. ลักษณะงานทุกวันนี้มีความหลากหลายมากขึ้น เพราะทุกวันนี้โลกหมุนเร็วขึ้นเเละเทรนด์ต่างๆ ก็มีการเปลี่ยนเเปลงอยู่ตลอด ส่งผลให้งานที่ทำต้องปรับเปลี่ยนตามไปเรื่อยๆเช่นกัน สำหรับคนที่รู้กว้างเชี่ยวชาญเเค่ด้านเดียวมักจะทำงานนอกเหนือขอบเขตความรู้ตัวเองไม่ค่อยได้ จึงทำให้สภาพเเวดล้อมเเบบนี้ส่งผลดีกับคนรู้กว้างมากกว่า


อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพราะหลายคนยังมองว่าคนที่รู้ลึกยังมีข้อได้เปรียบอยู่เนื่องจากคนที่รู้เเบบกว้างเเต่ไม่เด่นสักอย่างมีความเสี่ยงที่จะถูกเเทนที่ได้ง่าย พูดง่ายๆก็คือ หางานง่ายกว่าเเต่ก็ถูกให้ออกง่ายกว่าเช่นกัน เเละไม่ใช่ทุกวงการที่ต้องการคนเเบบรู้กว้าง เช่น วงการเเพทย์ ที่ยังต้องการคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญสูง


สรุปเเล้วการมีความรู้เเบบไหนถึงจะดีที่สุด คุณรวิศบอกว่า การมีความรู้เเบบตัว T พูดง่ายๆก็คือ ต้องรู้ลึกหรือเชี่ยวชาญอะไรสักด้าน ขณะเดียวกันก็สามารถรู้กว้างในด้านอื่นๆ ด้วย


เพราะการเชี่ยวชาญเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องดีครับ เเต่ยุคนี้มันอาจไม่เพียงพอ...


 

โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่เรียนในสาขานิเทศศาสตร์ซึ่งมีความรู้เเบบรู้กว้าง จึงทำให้ทันทีที่ผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบสิ่งที่ผมได้เเน่นอนเลยคือ Mindset เเละวิธีคิดการเป็นผู้บริหารของคุณรวิศ รวมถึงการมองเห็นภาพรวมในการวางเเผนเพื่อพัฒนาตัวเองให้เป็นที่ต้องการของตลาดได้มากยิ่งขึ้น...


ถ้าให้ผมเเนะนำเเบบเจาะจง หนังสือเล่มนี้เหมาะมากสำหรับนักศึกษาจบใหม่เเละคนที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจในยุคนี้ ที่กำลังมองหาเเนวทางการทำงานในเเบบของตัวเองครับ


 


ดู 667 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Commenti


bottom of page